ลงทะเบียนเงินอุดหนุนบุตร 2 เด้ง รับรวม 1,400 ทุกเดือน

ออมสินให้กู้ 5 แสน ผ่อนนานถึง 10 ปี เพื่อบุคลากรหน่วยงานราชการ

สามารถยื่นกู้ได้ผ่านเว็บไซต์ ออมสินเปิดโครงการสินเชื่อสวัสดิการสู้ภัยโควิด ให้กู้ 500,000 บาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี

ซึ่งธนาคารออมสิน เปิดโครงการสินเชื่อสวัสดิการ “สู้ภัยโควิด” สำหรับบุคลากรในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ องค์การมหาชน ที่หน่วยงานส่วนกลางมีข้อตกลงกับธนาคารออมสิน ซึ่งผู้ที่ต้องการกู้ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน สามารถกู้ได้สูงสุด 500,000 บาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี

โดยผู้กู้ต้องมีคุณดังนี้
1. เป็นบุคลากรในหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/องค์กรอิสระ/องค์การมหาชน ที่หน่วยงานส่วนกลางมีข้อตกลงกับธนาคารออมสิน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขข้อตกลงของแต่ละหน่วยงาน)
2. มีอายุครบ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 60 ปี ยกเว้น ข้าราชการอัยการและข้าราชการตุลาการ เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
3. เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคาร
4. ณ วันยื่นกู้ต้องไม่มีภาระสินเชื่อสวัสดิการสำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ธนาคารออมสิน)

สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขข้อตกลงของแต่ละหน่วยงาน
-ผู้กู้มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารออมสิน MRR (– 1.25%) = 4.995%
-ผู้กู้ไม่มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารออมสิน MRR (– 0.25%) = 5.995%
-ผู้กู้มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารออมสิน MRR (-1.00%) = 5.245%
-ผู้กู้ไม่มีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารออมสิน MRR = 6.245%

ซึ่งผู้ที่ต้องการกู้จะต้องทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565 และสามารถยื่นกู้ได้ผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th

ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารออมสิน

ลงทะเบียนเงินอุดหนุนบุตร 2 เด้ง รับรวม 1,400 ทุกเดือน

ซึ่งนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงการปรับเพิ่ม เงินสงเคราะห์บุตรให้กับบุตรของผู้ประกันตน ซึ่งที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี และให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มจากเดิมเดือนละ 600 บาท เป็นเดือนละ 800 บาทต่อคน โดยจ่ายคราวละไม่เกิน 3 คน

ซึ่งทั้งนี้วัตถุประสงค์ก็เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของผู้ประกันตน และภาคแรงงานให้สามารถเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ
ผู้ประกันตนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง จังหวัด,สาขา ที่ท่านสะดวก หรือโทร 1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th

โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

1. ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
2. จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
3. ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
4. อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

วิธีการลงทะเบียนขอรับ “เงินสงเคราะห์บุตร”

1. ซึ่งผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)
2. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
3. สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
4. พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน

เปิดวิธีตรวจสอบ “เงินสงเคราะห์บุตร”

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SSO Connect หรือเข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
2. เข้าสู่ระบบ หากยังไม่ได้เป็นสมาชิกสามารถสมัครผ่านระบบก่อน (สมัครสมาชิก)
3. ซึ่งผู้ที่เข้าผ่านแอพฯ กดเลือกเมนู “การเบิกสิทธิประโยชน์” ส่วนผู้ที่เข้าผ่านเว็บไซต์กดเลือกเมนู “การใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน”
4. และระบบจะแสดงรายการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรเป็นรายเดือนไว้ให้ตามสิทธิของผู้ประกันตน

ซึ่งสำหรับเงินสงเคราะห์บุตร 800 บาท ผู้ที่มีสิทธิ์ได้คือผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 ที่มีการจ่ายเงินสมทบมาสักระยะหนึ่งแล้ว และมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ผู้ที่จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท จะได้เงินสงเคราะห์บุตร 200 บาท โดยทั้งนี้จะได้รับเงินจนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ และสามารถเบิกเงินสงเคราะห์บุตรสูงสุดได้ไม่เกิน 3 คน สามารถติดต่อรับเงินได้เลยตั้งแต่เดือนแรกที่บุตรเกิดมาประกาศ

จ่ายให้กับผู้มีสิทธิ ดังนี้ ผู้มีสิทธิรับเงินอุดหนุนรายเดิม (กลุ่มเด็กที่เกิดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป) จ่ายตรงงวด จำนวน 600 บาทต่อเดือน และผู้มีสิทธิรายใหม่ที่ผ่านการพิจารณา ข้อมูลสมบูรณ์ในระบบฐานข้อมูลของโครงการเงินอุดหนุนฯ

วิธีลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร

ซึ่งสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ “เงินอุดหนุนบุตร” หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จะต้องไปลงะทะเบียนกับหน่วยงานใกล้บ้าน ได้แก่
– กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่สำนักงานเขต
– เมืองพัทยา ติดต่อได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
– ส่วนภูมิภาค ติดต่อได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

เอกสารประกอบการลงทะเบียน ได้แก่

– แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
– แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
– บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
– สูติบัตรเด็กแรกเกิด
– สมุดบัญชีเงินฝากของผู้ปกครอง ของธนาคารกรุงไทย ออมสิร หรือ ธ.ก.ส. อย่างใดอย่างหนึ่ง
– สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก
– ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ของทุกคนในครัวเรือนที่มีรายได้ประจำ

ซึ่งสำเนาเอกสารหรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรแสดงสถานะหรือตำแหน่ง หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงตนของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2

สำหรับวิธีการเช็กเงินอุดหนุนบุตรมีดังนี้

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ http://csgcheck.dcy.go.th
2. ระบุเลขประจำตัวประชาชนผู้ลงทะเบียน
3. ระบุเลขประจำตัวประชาชนเด็กแรกเกิด
4. กดค้นหาข้อมูล

โหลดแบบคำร้องขอลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

ซึ่งสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โทร. เบอร์ตรง 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199