ลงทะเบียน รับเงินบุตร 2 เด้ง เงินสงเคราะห์ เงินอุดหนุนบุตร รวม 1,400 ทุกเดือน

ซึ่งนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงการปรับเพิ่ม เงินสงเคราะห์บุตรให้กับบุตรของผู้ประกันตน ซึ่งที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี และให้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มจากเดิมเดือนละ 600 บาท เป็นเดือนละ 800 บาทต่อคน โดยจ่ายคราวละไม่เกิน 3 คน

 

 

ซึ่งทั้งนี้วัตถุประสงค์ก็เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของผู้ประกันตน และภาคแรงงานให้สามารถเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ
ผู้ประกันตนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง จังหวัด,สาขา ที่ท่านสะดวก หรือโทร 1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th

โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

1. ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
2. จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
3. ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
4. อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

วิธีการลงทะเบียนขอรับ “เงินสงเคราะห์บุตร”

1. ซึ่งผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)
2. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
3. สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
4. พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน

เปิดวิธีตรวจสอบ “เงินสงเคราะห์บุตร”

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SSO Connect หรือเข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
2. เข้าสู่ระบบ หากยังไม่ได้เป็นสมาชิกสามารถสมัครผ่านระบบก่อน (สมัครสมาชิก)
3. ซึ่งผู้ที่เข้าผ่านแอพฯ กดเลือกเมนู “การเบิกสิทธิประโยชน์” ส่วนผู้ที่เข้าผ่านเว็บไซต์กดเลือกเมนู “การใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน”
4. และระบบจะแสดงรายการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรเป็นรายเดือนไว้ให้ตามสิทธิของผู้ประกันตน

ซึ่งสำหรับเงินสงเคราะห์บุตร 800 บาท ผู้ที่มีสิทธิ์ได้คือผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 ที่มีการจ่ายเงินสมทบมาสักระยะหนึ่งแล้ว และมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ผู้ที่จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท จะได้เงินสงเคราะห์บุตร 200 บาท โดยทั้งนี้จะได้รับเงินจนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ และสามารถเบิกเงินสงเคราะห์บุตรสูงสุดได้ไม่เกิน 3 คน สามารถติดต่อรับเงินได้เลยตั้งแต่เดือนแรกที่บุตรเกิดมาประกาศ
จ่ายให้กับผู้มีสิทธิ ดังนี้ ผู้มีสิทธิรับเงินอุดหนุนรายเดิม (กลุ่มเด็กที่เกิดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป) จ่ายตรงงวด จำนวน 600 บาทต่อเดือน และผู้มีสิทธิรายใหม่ที่ผ่านการพิจารณา ข้อมูลสมบูรณ์ในระบบฐานข้อมูลของโครงการเงินอุดหนุนฯ

ซึ่งภายใน 25 กันยายน 2564 จ่ายย้อนหลังในเดือนที่ยื่นขอรับสิทธิ
ผู้ปกครองของเด็กที่มายื่นคำร้องขอลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิเงินอุดหนุนฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป เริ่มได้รับเงินในเดือนที่ยื่นขอรับสิทธิ

 

 

วิธีลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร

ซึ่งสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ “เงินอุดหนุนบุตร” หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จะต้องไปลงะทะเบียนกับหน่วยงานใกล้บ้าน ได้แก่
กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่สำนักงานเขต
เมืองพัทยา ติดต่อได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
ส่วนภูมิภาค ติดต่อได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

เอกสารประกอบการลงทะเบียน ได้แก่

แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
สูติบัตรเด็กแรกเกิด
สมุดบัญชีเงินฝากของผู้ปกครอง ของธนาคารกรุงไทย ออมสิร หรือ ธ.ก.ส. อย่างใดอย่างหนึ่ง
สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก
ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ของทุกคนในครัวเรือนที่มีรายได้ประจำ
ซึ่งสำเนาเอกสารหรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรแสดงสถานะหรือตำแหน่ง หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงตนของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2

สำหรับวิธีการเช็กเงินอุดหนุนบุตรมีดังนี้

 

 

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ http://csgcheck.dcy.go.th
2. ระบุเลขประจำตัวประชาชนผู้ลงทะเบียน
3. ระบุเลขประจำตัวประชาชนเด็กแรกเกิด
4. กดค้นหาข้อมูล

โหลดแบบคำร้องขอลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด

ซึ่งสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โทร. เบอร์ตรง 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199

สินเชื่อกสิกรไทย KPayLater สมัครง่ายๆ รู้ผลไว ภายใน 1 นาที อนุมัติสูงสุด 20,000 บาท

สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปสมัครสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งจะใช้เวลาสมัครไม่ถึง 5 นาทีก็จะทราบผลแล้วค่ะ สินเชื่อตัวนี้มีชื่อว่า KPayLater โดยใช้แอพ K Plus สแกนคิวอาร์โค้ดของร้านค้า และเลือกผ่อนด้วย K Plus จะเลือกผ่อนได้ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือนหรือ 5 เดือนก็ได้ค่ะ และสินเชื่อตัวนี้จะไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้นะคะ

 

 

จุดเด่นของ KPayLater

สินเชื่อตัวนี้จะไม่ต้องยื่นเอกสารแสดงรายได้เพิ่มเติม
วงเงินสินเชื่อต่ำสุดจะอยู่ที่ 2,000 บาทและสูงสุดอยู่ที่ 20,000 บาท
อนุมัติภายใน 3 นาที
ของที่จะผ่อนขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาท เลือกผ่อนได้นานสุด 5 เดือนค่ะ อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 25% ต่อปี จะเป็นแบบลดต้นลดดอก ถ้าได้วงเงินมาแล้วแต่เราไม่ได้ใช้ ก็จะไม่เสียดอกเบี้ยค่ะ

 

 

รายละเอียดของการสมัคร

ซึ่งสำหรับวิธีการสมัครรับสมัครผ่านแอพ K Plus สมัครได้ตั้งแต่เวลา 8:00- 19:00 น. ของทุกวัน แต่ถ้าใครที่สนใจจะสมัครแต่ยังไม่มีแอพ K Plus ให้ท่านเปิดบัญชีออมทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์หรือ K-eSavings ก่อน ท่านจึงจะสมัครได้และที่สำคัญท่านต้องอัพเดทแอพ K Plus ให้เป็นเวอร์ชั่น 5.15.0 ก่อน ถึงจะมีหน้าให้กดสมัครสินเชื่อตัวนี้ค่ะ

การใช้งาน KPayLater

และเมื่อเราได้รับอนุมัติวงเงินมาแล้วเราจะใช้ผ่านแอพ K Plus สแกนจ่ายผ่าน QR แมวปิ๊บจัง(K Shop) บางร้านอาจจะไม่ได้เอามาตั้งที่หน้าร้าน แนะนำให้สอบถามกับร้านค้าก่อนใช้ K Plus ทุกครั้งนะคะ และสามารถใช้กับร้านที่มีเครื่อง edc ของธนาคารกสิกรไทย หากใช้เฮลิคอปเตอร์ในการชำระค่าสินค้าและบริการจะใช้ได้ตั้งแต่ 03:00 – 21:00 น. ของทุกวันค่ะ เมื่อเรารู้จุดเด่นและรายละเอียดต่างๆของ KPayLater แล้วเรามาเริ่มสมัครกันเลยค่ะ

ขั้นตอนและวิธีการสมัคร

1. ขั้นตอนแรกให้ท่านเข้าไปที่แอพ K Plus และกดที่ปุ่ม ธุรกรรม

 

 

2. ต่อมาให้ กดที่ปุ่มสินเชื่อ

 

 

3. จะเข้ามาที่หน้าสินเชื่อค่ะ ให้ท่านมองที่มุมบนขวาท่านจะเห็นสินเชื่อให้กดที่ปุ่มนี้

 

 

4. เมื่อเข้ามาแล้วท่านจะเห็นรายละเอียดของสินเชื่อ ให้ท่านอ่านก่อนแล้วให้ท่านกดที่ปุ่มสนใจสมัคร

 

 

5. ให้ท่านอ่านรายละเอียดในหน้านี้ ถ้าเราไม่ให้ความยินยอมเราจะไม่สามารถสมัครได้ค่ะ ดังนั้นให้ท่านกดที่ปุ่มยินยอมเพื่อไปยังขั้นตอนต่อไปค่ะ

 

 

6. เมื่อกดที่ปุ่มยินยอมแล้ว ระบบสแกนใบหน้าของเราถ้าเราสแกนใบหน้าสำเร็จจะมีเครื่องหมายถูกอยู่ตรงกลาง และแจ้งว่าสแกนใบหน้าสำเร็จแล้ว ให้ท่านกดที่ปุ่มดำเนินการต่อ

 

 

7. ต่อมาจะเข้ามาที่หน้ายืนยันข้อมูลให้ท่านตรวจสอบข้อมูลของท่านค่ะทางข้อมูลที่เราเคยให้ไว้กับธนาคารไม่ถูกต้องเราก็สามารถกดปุ่มแก้ไขได้ให้ท่านเช็คดูและกรอกข้อมูลให้ครบทุกช่องเมื่อกรอกเสร็จแล้วให้กดปุ่มต่อไป

 

 

8. เมื่อกดปุ่มต่อไปแล้วเราก็จะทราบผลทันทีว่าเราได้รับอนุมัติหรือไม่

 

 

ซึ่งการอนุมัติของแต่ละคนจะได้รับอนุมัติสินเชื่อไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารค่ะ หากไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ ท่านก็สามารถสมัครใหม่ได้โดยให้ท่านเว้นไปอีก 1 เดือน และนี่ก็เป็นรายละเอียดและวิธีการสมัครสินเชื่อ KPayLater สำหรับท่านที่ต้องการสินเชื่อที่เอาไว้ผ่อนของโดยที่ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ท่านก็สามารถสมัครในแอพ K Plus ได้เลยค่ะ

ขอบคุณภาพจาก : ช่อง YouTube ลงมือทํา By ต้นอ้อย