สวัสดีครับวันนี้เรามีเรื่องราวข่าวสารดีๆมาอัพเดทให้ฟังกันอีกเช่นเคยครับ วันนี้จะมาพูดถึงความชัดเจนที่มีมากขึ้นสำหรับการเยียวยาผู้ที่ประกอบอาชีพคนกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหารที่เปิดตอนกลางคืน

ล่าสุดโฆษกรัฐบาลก็ได้ออกมาเน้นย้ำว่า นายกได้สั่งการให้การเตรียมโครงการที่จะช่วยเหลือธุรกิจคนกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝั่งของนายจ้างและลูกจ้าง รวมไปถึงผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะเป็นนักร้องนักดนตรี เด็กเสิร์ฟต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนะครับ
แนวทางในการเยียวยาจะมีอยู่ 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 คือ การช่วยผู้ประกอบการ
การช่วยผู้ประกอบการนั้นจะใช้รูปแบบวิธีการที่คล้ายๆกันกับก่อนหน้านี้ที่เคยมีการช่วยเหลือนายจ้าง SME นะครับเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วสถานประกอบการประเภทกลางคืนนี้จะอยู่ในลักษณะที่มีลูกจ้างก็จะไม่เกิน 200 คน ก็จะใช้โครงการเดิมต่อเนื่องมา นั่นคือ ให้ผู้ประกอบการไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้จ้างนะครับ เป็นนายจ้างใน ม. 33 จะได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน ที่มีอาการก็จะย้ายนายจ้าง SME ที่มีการช่วยเหลือก่อนหน้านี้แล้วสั่งของนายจ้างก็จะได้รับการช่วยเหลือนะครับค่าจ้าง โดยได้รับการสนับสนุนสามารถลาต่อลูกจ้าง 1 คนที่มีจำนวน 1 เดือน
กลุ่มที่ 2 คือ ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม
ผู้ที่ทำงานกลางคืนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ม. 33 ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ก็จะได้รับการช่วยเหลือมากที่สุด เพราะว่าจะมีการช่วยเหลือ 2 ส่วนด้วยกันก็คือ ส่วนแรกเป็นการช่วยเหลือจากประกันสังคมเอง หรือที่เรียกว่าการว่างงานสุดวิสัยซึ่งจะได้ 50% ของค่าจ้างนะครับ ส่วนที่ 2 ก็จะมีเงินที่รัฐบาลจะช่วยเยียวยาให้อีก 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน แล้วกลุ่มนี้จะต้องเป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคม ม. 33 ที่ทำงานกลางคืนนะครับ จะได้ 2 เด้งเลย
กลุ่มที่ 3 คือ ลูกจ้างที่อยู่นอกระบบประกันสังคม
จะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ม. 33 กลุ่มนี้จะต้องมาสมัคร ม. 40 นะครับ เพื่อที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
สรุปการเยียวยารอบใหม่
จะมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน คือ
- นายจ้างต้องไปขึ้นทะเบียนลูกจ้างตัวเอง ใน ม. 33 แล้วจะได้เงินชดเชย 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน
- ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม ม. 33 รับ 50% ของค่าจ้าง + 5,000 บาท
- ส่วนลูกจ้างที่ไม่ได้อยู่ในประกันสังคม เป็นอาชีพอิสระก็ไปขึ้นทะเบียน ม. 40 แล้วก็รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
การเยียวยาธุรกิจกลางคืนที่ยังไม่สามารถเปิดได้ในช่วงของสิ้นปีแล้วก็ปีใหม่นี้ ที่ผมกล่าวมานี้ อยู่ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังจะนำเสนอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้แล้วก็นำเข้าสู่ ครม. ต่อไปนะครับ คาดว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ก็จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะมีการจ่ายได้ไม่เดือนธันวาคม อย่างช้าก็เดือนมกราคมนะครับ หากมีข้อมูลข่าวสารหรือความคืบหน้าอะไรที่เป็นประโยชน์ จะรีบนำมาแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งนะครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามข่าวสารครับ