เป็นอีกนักร้องดัง ที่หลายคนติดตามและมีแฟนคลับจำนวนมาก เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นอะไรที่หนักหนามากทั้งเรื่องของการใช้ชีวิตในปัจจุบันและการใช้จ่าย เบิ้ล ปทุมราช หนักใจ สงสารพ่อแม่ที่เป็นชาวนา หลังราคาข้าวเปลือกตก เหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท
บอกถ้าไม่ได้เป็นนักร้องจะเป็นยังไง แฟนคลับบอก มาถึงจุดที่ราคาข้าวถูกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้ว ค่าเกี่ยวค่าไถค่าปุ๋ยก็ไม่พอ

แถมน้ำท่วมอีกทำเอานักร้องลูกทุ่งหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช ถึงกับหนักใจ จากข่าวปัญหาราคาข้าวตก ข้าวเปลือกเหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท
ในฐานะบุตรชาวนา นักร้องหนุ่มได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า มาบ้าน เห็นราคาข้าว ละสิโตนพ่อกับแม่เด้ คั่นบ่ได้เป็นนักร้องชีวิตสิเป็นจังใด
เบิ้ล ปทุมราช
ทั้งนี้ นักร้องหนุ่ม ได้โพสต์ภาพชาวนาที่ทุ่งนา แต่ว่าในภาพนั้นไม่ใช่ต้นข้าว เป็นภาพรูปบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแทน และไม่ได้มีการเขียนแคปชั่นประกอบภาพ
ท่ามกลางแฟนคลับที่เข้ามาคอมเมนต์ แสดงความเห็นกันมากมาย อาทิ ค่ารถเกี่ยวกะบ่พอ แถมน้ำท่วมอีก
ชีวิตชาวนาเฮียบ่เฮดกะบ่ใด้เห็นราคาข้าวละเพลีย ราคาข้าวถูกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปละ ราคาลงปานว่าคนบ่กินข้าว ค่าไถกับกับปุ๋ยกะพอแฮงแล้ว ค่าเกี่ยวอีก เหมื่อยเด้ เป็นต้น
ช่วยเกษตรน้ำท่วม ธ.ก.ส. ปล่อยกู้ 50,000-500,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ
ข่าวดี สำหรับเกษตรกรทั้งหลาย เนื่องจาก ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อเป็นค่าลงทุนในการประกอบอาชีพ สร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รายละไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี และสินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในครัวเรือน รายละไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ย 0% 6 เดือน ให้กับเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่มาจากอิทธิพลพายุโซนร้อน เช่น พายุเตี้ยนหมู่ ไลออนร็อก คมปาซุ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนทรัพย์สินที่อยู่อาศัยของเกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไป และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้เป็นค่าลงทุนในการประกอบอาชีพ การสร้าง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย หรือลงทุนซ่อมแซมโรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพการเกษตรหลังจากได้รับความเสียหาย วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 15 ปี นับแต่วันกู้
โดยก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส. ได้ออกสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประสบภัยนำไปใช้จ่ายที่จำเป็นเร่งด่วนภายในครัวเรือน รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน และตั้งแต่เดือนที่ 7 อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันกู้
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้พนักงาน ธ.ก.ส. ในพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมจัดหาถุงยังชีพไปมอบให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนที่เดือดร้อน รวมถึงเข้าไปสนับสนุนศูนย์อพยพหรือจุดรวมพลต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาอาหาร น้ำดื่ม บริการสุขาเคลื่อนที่ เต็นท์สนาม และความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ
อีกทั้ง ธ.ก.ส. ได้พิจารณาขยายระยะเวลาชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยออกไปสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ตามศักยภาพของลูกหนี้โดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามความหนักเบาของเกษตรกรผู้ประสบภัย เกษตรกรผู้ประสบความเดือดร้อนสามารถติดต่อ ธ.ก.ส. ในพื้นที่เพื่อขอรับการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ได้ทันที หรือสอบถามที่ Call Center 02 555 0555 นายสมเกียรติกล่าว